พอลลีน งามพริ้ง ลงสมัครชิงนายกฯ บอลไทย ลั่น มีความเป็นกลาง พร้อมทำงานจริง ไม่ใช่แค่ประชุมอย่างเดียว
วันที่ 8 ธ.ค. 66 หลังจาก พอลลีน งามพริ้ง เดินทางมายื่นใบสมัคร ท้าชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอล
แห่งประเทศไทย เป็นรายที่ 3 ต่อจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่
และ “ป๊อก” วรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขาฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด
และอดีตโฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ พอลลีน งามพริ้ง เปิดเผยว่า
“เข้ามาสมัครเพื่ออยากที่จะเปลี่ยนสมาคมฟุตบอลไทย ให้ทีมชาติไทยใกล้เคียงกับแนวหน้าของเอเชีย
ให้มากกว่านี้ นโยบายหลักๆ ก็คือการเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะลีกล่าง
รวมถึงการพัฒนาเยาวชนที่เป็นรูปธรรม” “นอกจากนั้นก็จะเป็นการขยายตลาด
เพื่อให้สโมสรที่ยังไม่เข้มแข็งสามารถจับปลาได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าต้องรอพึ่งผู้มีบารมี
นายทุนหรือสปอนเซอร์ ที่สำคัญคือการบริหารแบบเป็นกลางมีความสุจริต และเป็นกลางต่อสโมสรต่างๆ
โดยนำประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ” “ที่ผ่านมาเราใช้วิธีเดิมๆ มาคัดสรรคนบริหาร
ผลลัพธ์มันก็เป็นแบบเดิม เหมือนเราขับรถวนในสนาม แต่ว่าถ้าเราจะเปลี่ยน
เราต้องหันมาดูว่าเราควรจะเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนเส้นทางด้วย ถ้าแค่เปลี่ยนรถ ถ้ารถดีแค่ไหน
แต่ขับในสนามเดิมเดี๋ยวก็จะกลับมาที่เดิมอีก สำคัญที่สุดก็ต้องเปลี่ยนเส้นทาง และเราพร้อมที่จะเปลี่ยน
เส้นทางของฟุตบอลไทย ให้ดีกว่าเดิม แม้ไม่ได้วันนี้ เราก็ไม่แพ้ แล้วก็ไม่คิดว่าเราจะแพ้
เวลาแข่งฟุตบอลแล้วมันแพ้เราก็ต้องแพ้ แต่เราไม่ยอมแพ้แล้วเราก็จะทำงานด้านฟุตบอลต่อไป”
“จุดเด่นของทีมคือเราประกอบด้วยบุคลากรในหลายด้าน แล้วพร้อมทำงานจริง ไม่ใช่แค่ประชุมอย่างเดียว
สมาคมฟุตบอลควรประกอบไปด้วยคนที่เป็นกรรมการเนี่ยควรจะทำงานจริงได้ ไม่ใช่ดูแค่ผลประโยชน์
หรือพื้นที่ของสโมสรตัวเอง เพราะฉะนั้นเรามีทีมงานที่เป็นกลาง ที่จะคอยดูแลผลประโยชน์ในแง่
ของตัวเงินและความรู้สึกที่เป็นธรรม และเชื่อว่าเราทำงานเป็นกลางได้ดีกว่า”