ชัยชนะของ บาร์เซโลน่า หลังจากที่บุกไปถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 ในเกมลาลีกา สเปน เมื่อเร็วๆนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญของกุนซือ ซาบี้ เอร์นานเดช อดีตแข้งระดับตำนานของสโมสร
ตั้งแต่ลงคุมทีมครั้งแรกในดาร์บี้แมตช์ที่คาตาลัน เมื่อ 20 พ.ย. ปีที่ผ่านมา จนถึงนัดล่าสุดในเอล กลาสิโก้ ซาบี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือนเพียงแค่นั้น ในการพลิกสถานการณ์ของบาร์ซ่าจากอันดับ 9 ขึ้นสู่อันดับ 3
แล้วก็นี่เป็นเหตุผล 5 ข้อ ที่ทำให้ บาร์เซโลน่า ในสมัย ซาบี้ เอร์นานเดโช เปลี่ยนไปในแนวทางที่ดียิ่งขึ้น
การเสริมนักเตะในช่วงเดือนมกราคม
ก่อนที่ซีซั่น 2021/22 จะเริ่มขึ้น บาร์เซโลน่า ต้องเสีย ลิโอเนล เมสซี่ ที่จำใจออกจากถิ่นคัมป์ นู เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในสโมสร และเงินที่ได้จากการลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ นำไปซื้อนักเตะใหม่ในช่วงตลาดหน้าหนาว
ดานี่ อัลเวส, เฟร์ราน ตอร์เรส, ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง และ อดาม่า ตราโอเร่ คือ 4 ผู้เล่นที่บาร์ซ่าได้เสริมเข้ามาในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และพวกเขาเหล่านี้ก็ช่วยยกระดับทีมให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อัลเวส และก็ ตราโอเร่ ทำให้การเล่นฝั่งขวามีประสิทธิมากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ตราโอเร่ ที่เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลเยาวชนในศูนย์ฝึกหัดลา มาเซีย แอสซิสต์ให้เพื่อนฝูงทำคะแนนในลาลีกา แล้วก็ยูโรป้า ลีก อย่างละ 2 แอสซิสต์
เปดรี้ หายเจ็บกลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม
เปดรี้ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปี ในช่วงระหว่างปี 2020-2021 ที่ผ่านมา ลงเล่นต่อเนื่องทั้งกับ บาร์เซโลน่า, ทีมชาติสเปนชุดใหญ่ในยูโร 2020 และ ทีมชาติสเปนชุดโอลิมปิก 2020 รวมทั้งสิ้น 73 นัด
หลังหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ฟอร์มการเล่นของ เปดรี้ ก็กลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีในแผงมิดฟิลด์ของบาร์ซ่า
ผลงานการทำประตูของ เปดรี้ ในช่วงฤดูกาลนี้ เริ่มจากยิง 1 ประตูในเกมโคปา เดล เรย์ ที่เจอกับ แอธเลติก บิลเบา 1 ประตูในเกมลาลีกา ที่เจอกับ เอสปันญ่อล แล้วก็ 1 ประตูในยูโรป้า ลีก ที่เจอกับ กาลาตาซาราย
ซาบี้ นำสไตล์การเล่นที่แท้จริงกลับคืนมา
หลังจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า ในปี 2012 ดูเหมือนว่ากุนซือคนต่อๆมาจะไม่ได้สืบทอดแนวคิดการเล่นฟุตบอลที่ เป๊ป ได้ทำไว้สักเท่าไหร่ และทำทีมด้วยปรัชญาของตัวเอง
เริ่มจาก หลุยส์ เอ็นริเก้ มักจะใช้บอลเร็วแทงทะลุตามช่อง แล้วอาศัยความสามารถของสุดยอด 3 ประสานกองหน้าอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ ช่วยกันยิงประตูอย่างถล่มทลาย
ส่วนในยุคของ เออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้, กิเก้ เซเตียน และ โรนัลด์ คูมัน แม้จะพาทีมคว้าแชมป์รวมกัน 5 โทรฟี่ แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องสไตล์การเล่นที่ไม่ได้ทำตามปรัชญาฟุตบอลที่แท้จริงของสโมสร
จนกระทั่งการเข้ามาของ ซาบี้ ก็ได้นำสไตล์ที่คุ้นเคยกลับมา คือการส่งบอลแบบเท้าสู่เท้าอย่างรวดเร็ว เน้นต่อบอลจ่ายเข้ากลาง แล้วให้มิดฟิลด์ออกบอลไปยังพื้นที่ว่าง แล้วอาศัยกองหน้าที่มีความสามารถวิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่างนั้น
การฟื้นฟูสโมสรจนกลับมามีบรรยากาศที่ดี
นับตั้งแต่ โจน ลาปอร์ต้า ชนะการเลือกตั้งได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานของ บาร์เซโลน่า อีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เขาได้เข้ามาฟื้นฟูสโมสรจนทำให้บรรยากาศภายในทีมกลับมาในทิศทางบวกอีกครั้ง
การที่ ซาบี้ เอร์นานเดซ ตัดสินใจรับตำแหน่งผู้จัดการทีม ได้นำแท็กติกและสไตล์การเล่นที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของ บาร์เซโลน่า ในอดีตกลับคืนมา และผลลัพธ์ในสนามก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าออกมาดี
สภาพจิตใจที่ดี ทำให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ดี ถึงแม้ยามที่จำเป็นต้องอยู่ในสภาพการณ์บีบคั้น โดยยิ่งไปกว่านั้น 2 นัดล่าสุดที่กลับแซงชนะ กาลาตาซาราย ในยูโรป้า ลีก รวมทั้งหยุดสถิติแพ้เกม “เอล กลาสิโก้เก๋” ในลาลีกาไว้ที่ 4 ครั้งต่อๆกันได้เสร็จ
ติดตามข่าวสารอัพเดทได้ที่: Facebook Fan page: https://www.facebook.com/SportNewsToyou//