สนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สิ่งที่สำคัญที่สุดในวงการ “ฟุตบอล” ก็คือสนามซึ่งเปรียบเหมือนบ้านหลังใหญ่ของนักเตะ ซึ่งรองรับ FC  ว่ากันว่ายิ่งเสียงเชียร์ดังเท่าไร ก็ยิ่งทำให้นักเตะมีกำลังใจมากเท่านั้น มี 5 สนามที่ใหญ่ที่สุดในโลก เอ๋!!!! จะมีประเทศไทยหรือเปล่านะ มาค่ะมาลุ้นกันค่ะ

สนามกีฬา เรนนาโด

สนามฟุตบอลอันดับ 1 กันเลย คือ สนามกีฬา เรนนาโด หรือทุกคนเรียกว่า เรนนาโด สเตเดี่ยม เป็นสนามกีฬาเอกประสงค์ในกรุงเปียยาง เมืองหลวงของประเทศเกาหลีเหนือ เปิดใช้งานครั้งแรก วันที่ 1 พ.ค. 1989 มีความจุมากถึง 1 แสน 1 หมื่นคน ทำให้เรนนาโด่คือสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก แอบภูมิใจเล็ก ๆ แต่ความภูมิใจก็ต้องจบลงเพราะ สนามแห่งนี้ไม่เป็นที่นิยมในการจัดการแข่งขัน เพราะสนามแห่งนี้มักจะใช้ในการจัดงานเทศกาลแห่งชาติ

เอ ที แอนด์ ที สเตเดี้ยม

สนามฟุตบอลอันดับที่ 2 เอ ที แอนด์ ที สเตเดี้ยม ตั้งอยู่ในประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยสนามแห่งนี้จุคนได้มากถึง105,000 ที่นั่ง เปิดใช้งานวันแรก วันที่ 27 พ.ค. 2009 สามารถใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น คอนเสริ์ต การแข่งขันฟุตบอล หรือ การแข่งขันบาสเก็ตบอล ของระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ถือเป็นสนามเป็นสนามอันดับ 1 ของ สหรัฐอเมริกา และเป็น อันดับ 2 ของโลก

สนาม เมลเบริ์ธ คริกเก็ต กราวด์

อันดับ 3 สนาม เมลเบริ์ธ คริกเก็ต กราวด์ ตั้งอยู่ในประเทศ ออสเตรเลีย โดยสนามแห่งนี้จุคนได้มากถึง 100,024 ที่นั่ง เปิดใช้สนามเมื่อปี 1853 หรือเป็นเวลา 169 ปีมาแล้ว ทำให้สนามแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด ยังเป็นสนามที่เคยจัดการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อน 1956 มาแล้ว ยังใช้ในการแข่งขันรักบี้ได้อีกด้วย ใช้งานได้หลากหลายจริง ๆ และยังเป็นสนามอันดับ 1 ของ ทวีป ออสเตรเลีย  เป็นอันดับ 3 โลก

สนาม แคมป์ นู

อันดับที่ 4 กันดีกว่า สนาม แคมป์ นู ตั้งอยู่ในประเทศ สเปน โดยสนามแห่งนี้จุได้มากถึง 99,354 ที่นั่งและเปิดให้ใช้งานในปี 1957 แม้ว่า แคมป์ นู จะจุได้ไม่ถึง 1 แสนที่นั่ง แต่สถิติผู้ชมสูงสุดในสนามแห่งนี้จุได้ถึง 120,000 ที่นั่ง ซึ่งเกิดในเกมส์ บาร์เซโลน่า พบ ยูเวนตุส ในปี 1986 สนามแห่งนี้ได้ผ่านการจัดการแข่งขัน  World cup1982 , โอลิมปิค 1992, UCl 1989 และ UCL 1999

เอฟ เอ็น บี สเตเดี้นม

อันดับท้ายสุด อันดับที่ 5 เอฟ เอ็น บี สเตเดี้นม ตั้งอยู่ในประเทศ แอฟริกาใต้ โดยสนามแห่งนี้จุได้มากถึง 94,736 ที่นั่ง เปิดใช้งานเมื่อปี 1989 และได้มีการปรับปรุงเมื่อปี 2009 เพื่อรองรับในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รูปทรงสนามนั้นคล้ายกับผลไม้ประจำชาติคือ ลูกคาราบัส ในยามค่ำคืนเมื่อแสงสาดส่องมายังสนามยังสวยงามยิ่ง

เสียดายจังไม่มีประเทศไทยเลย แต่หวังว่าในอนาคตประเทศไทยคงสร้างสนามที่ติด 1 ใน 5 ให้คนทั่วโลกได้กล่าวถึงเช่นกัน