อาร์เซน่อล – ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (18:30 น.)
อาร์เซน่อล จะจับตาดูความพร้อมของ โธมัส ปาร์เตย์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ แต่ในรายของ เอมิล สมิธ โรว์ จะพักยาวจนถึงเดือนธันวาคมเลย
คีแรน เทียร์นี่ย์ ต้องทำตามกฏป้องกันคอนคัสชั่นแต่อาจจะลงสนามได้ ส่วนทางด้าน มาร์ติน โอเดการ์ด และ รีส เนลสัน ก็น่าจะกลับมาพร้อมช่วยทีม
สเปอร์ส ต้องรอประเมินความพร้อมของ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ที่พบกับอาการบาดเจ็บระหว่างไปช่วยทีมชาติสวีเดน
อูโก้ ญอริส กับ เบน เดวี่ส์ ต่างต้องเช็คความพร้อมด้วยเหมือนกันหลังพลาดการช่วยทีมชาติ และเกมนี้ยังไวไปสำหรับ ลูคัส มูร่า
สถิติที่ผ่านมา
– สเปอร์ส ผ่านการเอาชนะได้เพียงแค่ 2 จาก 37 เกมหลังสุดที่พวกเขาไปเยือน อาร์เซน่อล ในลีก (เสมอ 14 แพ้ 21) ชัยชนะทั้งสองเกมเกิดขึ้นในปี 1993 และ 2010
– มิเกล อาร์เตต้า ไร้พ่ายตลอดการมีส่วนร่วมในศึกนอร์ธ ลอนดอนดาร์บี้ 7 นัดที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่ว่าจะเป็นตอนเป็นนักเตะและผู้จัดการทีม
– แฮร์รี่ เคน ผ่านการยิงมา 13 ลูกจาก 17 เกมที่พบกับ อาร์เซน่อล ในทุกรายการ ส่วน ซน ฮึง มิน ก็ผ่านการยิงมา 4 ประตูจาก 5 นัดหลังสุดที่พบ “ปืนใหญ่” ในลีก
สกอร์ที่คาด : เสมอ 1-1
คริสตัล พาเลซ – เชลซี (21:00 น.)
พาเลซ ยังคงไม่มีนักเตะที่เจ็บยาวแบบ นาธาน เฟอร์กูสัน, แจ๊ค บัตแลนด์ และ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์
ส่วน เจมส์ ทอมกินส์ พร้อมสำหรับการลงสนามหนแรกของฤดูกาลหลังสลัดปัญหาเจ็บน่องไปได้
เชลซี นั้นได้ เอดูอาร์ เมนดี้ กลับมาลงซ้อมแล้วหลังพบอาการเจ็บเข่า แต่ก็จะไม่พร้อมสำหรับการเฝ้าเสาช่วย แกรห์ม พอตเตอร์ ที่จะคุมทีมในลีกเป็นหนแรก
เกมนี้ก็ยังไวไปสำหรับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ใกล้จะคัมแบ็คกลับมาจากการพักยาว 7 สัปดาห์เพราะปัญหาเกี่ยวกับแฮมสตริง ขณะที่ มาร์ก คูคูเรญ่า และ คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า พากันป่วยจะอดมีส่วนร่วม
สถิติที่ผ่านมา
– เชลซี กวาดชัยชนะเหนือ พาเลซ มา 10 เกมติดต่อกันในทุกรายการ
– มีเพียงแค่กุนซือถาวรรายเดียวจาก 10 คนหลังสุดที่คุม เชลซี ลงสนามเกมลีกนัดแรกแล้วพบกับความพ่ายแพ้ ซึ่งก็คือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ในปี 2019
สกอร์ที่คาด: เสมอ 0-0
ลิเวอร์พูล – ไบรจ์ตัน (21:00 น.)
ลิเวอร์พูล ไม่มี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่อาการบาดเจ็บหัวเข่ายังตามรบกวนอยู่
อิบราฮิม่า โคนาเต้ อาจจะกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งหลังหายหน้าไป 2 เดือนเพราะพบกับปัญหาเดียวกัน นอกนั้น อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เคอร์ติส โจนส์ และ นาบี้ เกอิต้า ยังต้องพักต่อไป
โดยทาง ไบรจ์ตัน ไม่มี อีน็อค เวปู ที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลระหว่างไปเก็บตัวกับทีมชาติ
ทาริก แลมป์ตีย์ อาจจะเป็นอีกรายที่พลาดการมีส่วนช่วย หลังพบกับอาการเจ็บระหว่างลงซ้อมกับทีมชาติกาน่า
สถิติย้อนหลัง
– ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกวาดชัยเหนือ ไบรจ์ตัน ไป 11 จาก 15 เกมหลังสุดในทุกรายการ (เสมอ 3 แพ้ 1)
– ลิเวอร์พูล ยังไม่แพ้เกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกมา 26 เกมแล้ว โดยเก็มชัยชนะไปถึง 20 นัดและคลีนชีตอีก 15 หน
สกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0